ประสิทธิภาพของเครื่องสำอางสมุนไพร
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลผิวหนังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางมีการ เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเอง
โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรจะเติบโตประมาณ 10% ต่อปีแต่สำหรับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอันหมายถึงการมีส่วนผสมของสมุนไพรสกัด
จากการสำรวจตลาดโดยนักการตลาดพบว่าจะมีการเติบโตถึง 25% ต่อปี
ในปัจจุบันและอย่างน้อยอีก 5 ปีต่อไปข้างหน้า ทั้งนี้เนื่องมาจากแรงบันดาลใจและแรงผลักดันของผู้บริโภคที่มีความต้องการ
ใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพรมากขึ้นนั่นเอง ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความมั่นใจถึงความปลอดภัยและประโยชน์ที่จะได้รับจากพืช
สมุนไพรมากกว่าที่จะใช้ส่วนผสมที่สกัดได้จากสัตว์ เนื่องจากในระยะประมาณ 10
ปีที่ผ่านไปพบโรคหลายชนิดที่ได้มาจากสัตว์ เช่น โรควัวบ้า
ดังนั้นสารสกัดที่ได้จากสัตว์จะมีการลดความนิยมใช้ลงน้ำมันพืชหรือน้ำมันที่
สกัดได้จากพืชสมุนไพรชนิดต่าง ๆ รวมทั้งสารสกัดจากส่วนต่าง ๆ ของพืชจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ ซึ่งเป็นทางเลือกของการดูแลสุขภาพที่แลดูน่าจะได้ประโยชน์และปลอดภัย ทั้งนี้รวมถึงความพยายามที่จะนำพืชสมุนไพรไปใช้ในการรักษาโรคที่รุนแรงบาง
ชนิดด้วย เช่น มะเร็ง เอดส์
ในอดีตการใช้สมุนไพรเป็นการใช้แบบพื้นบ้านใช้ตามคำบอกเล่าโดยปราศจากการวิ
จัย วิธีการเตรียมก็ง่าย ๆ เป็นเช่นนี้ทั้งในต่างประเทศและในสังคมไทยเอง จวบจนปัจจุบันการทำวิจัยอย่างถ้วนถี่และครบวงจรก็ยังน้อยสำหรับเครื่องสำอาง
สมุนไพรทั้งนี้เนื่องจากองค์ประกอบทางเคมีซึ่งเป็นสารสำคัญในสมุนไพรแต่ละ ชนิดมีมาก
และบางชนิดก็ไม่สามารถวิเคราะห์ได้โดยวิธีทางเคมีพืชสมุนไพรหลายชนิดก็ยัง ไม่ทราบองค์ประกอบทางเคมีทีแน่ชัด
สิ่งที่ผู้บริโภคควรคำนึงถึงอย่างมากคือ สมุนไพรจากเครื่องสำอางมักจะมีปัญหาหลายหลากคือปัญหาความคงตัวของสารสกัด
สมุนไพรและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
สารสกัดสมุนไพรส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องความคงตัวในสภาวะแวดล้อมของความ
เป็นกรด-ด่างและอุณหภูมิที่แตกต่างกันทำให้สารสกัดสมุนไพรเหล่านี้ไม่คงตัว ในผลิตภัณฑ์และมีอายุสั้น
(Limited shelf life) สังเกตได้
เช่น สีของเนื้อครีมมักจะออกนวลหรือเหลืองน้ำตาลทำให้ประสิทธิภาพต่อผิวหนังลดลง ก่อนซื้อจึงควรสังเกตให้ดี
ในแง่ของประสิทธิภาพนั้นมักจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในตำรับโดยทั่วไปผิวหนัง
คนเราจะทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้สารทุกชนิดแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้โดยง่าย ดังนั้นจะพบว่าสารสกัดสมุนไพรที่ถูกผสมผสานลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหากไม่
ได้รับการพัฒนาตำรับให้ดีจะมีประโยชน์น้อยต่อผู้บริโภค เช่น สารสกัดสมุนไพรที่ละลายได้ดีในน้ำการผสมผสานในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางควรที่
จะพัฒนาตำรับให้โมเลกุลของสารสกัดสามารถผ่านเซลล์ผิวเข้าสู่ผิวหนังที่ลึกลง ไปได้
หากสารสำคัญไม่สามารถซึมเข้าไปที่เซลล์ผิวชั้นล่างได้ก็จะไม่เกิด ประสิทธิภาพตามที่ต้องการ
ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดสมุนไพรอีกประการที่สำคัญ
คือ ความเข้มข้นของสารสกัดหากความเข้มข้นต่ำเปอร์เซ็นต์ของสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ มีน้อยไม่เพียงพอต่อการทำหน้าที่ประโยชน์ต่อผิวหนังจึงไม่เกิดหรือน้อยมาก
ดังนั้นเราจะพบว่าการเลือกซื้อสินค้ากลุ่มนี้จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่ไม่ใช่สินค้าสมุนไพรทุกชนิดจะดีไปหมด
(“ประสิทธิภาพของเครื่องสำอางสมุนไพร”.[ออนไลน์].http://www.n3k.in.th)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น